BKK - LAX
หลังจากได้วีซ่ามา 10ปี ก็ถึงคราวที่เราต้องบินจริงๆกันเสียที การเดินทางในครั้งนี้เราใช้ตั๋วพิเศษของการบินไทย ชื่อเต็มของตั๋วเรียกว่ายังไงดิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกัน เด่วจะถามทางคุณแฟนให้อีกที แล้วจะมาตอบทีหลังนะคะ สิทธิพิเศษของตั่วก็คือ..ไม่ต้อง stand by จองที่นั่งได้เลย
ที่สำคัญอัพเกรดที่นั่งในชั้นสูงสุดได้โดยอัติโนมัติ
ก็เลยได้นอนชิลๆ สบายอารมณ์ แต่ไม่ได้ชิลตลอดระยะทางเนื่องจากพาเจ้าตัวเล็กไปด้วย และมีกฎว่าตั๋วชนิดนี้ไม่สามารถ ใช้กับเด็กอายุต่ำกว่า 12ขวบ นั้นหมายความว่าลูกนั่งชั้น royal silk ไปด้วยไม่ได้ งานนี้เลยต้องมีการเสียสละ และแล้วคุณแฟนก็เสียสละให้ดิฉันได้นอนสบาย
ส่วนเค้าก็ยอมดูแลลูกใน economy class แทน เศร้าเลย T T
ผู้ร่วมเดินทางในทริปนี้ สุดที่Love กะเจ้าตัวยุ่ง
ตรวจเอกสาร ตรวจอาวุธ สแกนกระเป๋าแล้ว เข้ามาข้างในก็จะเจอพญานาคมาคอยส่งเรา
ให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ
แต่ละร้านก็น่าช๊อปทั้งน้าน..ได้แต่อดใจ เพราะกลัวว่าเดี๋ยวจะไปอดตายที่อเมริกาซะก่อน
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน ) ได้รับรางวัล สายการบินยอดเยี่ยมแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำปี 2011 จากนิตยสารโกลบอล แทรเวลเลอร์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา
การได้ใช้บริการเลาท์ของการบินไทยจึงนำมาซึ่งควาภาคภูมิใจในสายการบินแห่งชาติ จึงอยากเข้าไปเก็บรายละเอียดหลายๆมุมมาให้ได้ชมกัน แต่วันนั้นคนเยอะมากกกกกกกกก..ถึงมากที่สุด หากดิฉันไปยืนเก้ๆ กังๆถ่ายรูปก็เกรงว่าจะเป็นการรบกวนผู้โดยสารท่านอื่น ๆกอรปกับกล้องที่ใช้คุณภาพไม่ค่อยดีนัก จึงมีรีวิวมาให้ดูไม่มากเลยขอรวบยอดเลาท์การบินไทยที่BKK กับที่ LAX .ให้ดูในกระทู้เดียวกันเลยนะคะ
ทางเดินสู่เลาจ์ก็ค่อนข้างไกลเหมือนกันนะ
อีกมุมที่ว่าง แต่ว่างตอนที่เราจะต้องขึ้นเครื่องซะแล้ว เลยอดนั่งเลย
โต๊ะว่างก็ไม่มีจึงต้องขอนั่งร่วมโต๊ะกับสาวแสนสวย และใจดีคนนี้แหละ
จริงๆอาหารก็มีหลากหลายนะคะ พนักงานที่คอยบริการก็เป็นเลิศค่ะ อยากให้เราได้ชิมหลายๆอย่าง แต่ก็ไม่ได้ชิมคะ ทานแค่เค้กกับน้ำส้มเท่านั้นเอง เด่วไปแอบลุ้นกันต่อว่าบนเครื่องจะมีอะไรให้เราทานบ้าง
อีกมุมในห้องน้ำ แค่มุมนี้มุมเดียวก็พอ เดี๋ยวจะพาไปทานอาหารบนเครื่องกันต่อ
ขณะที่รอขึ้นเครื่องลูกยังซนได้อีก จึงต้องล่อด้วย BEN 10
|
ขาไปเราบินไฟล์ TG 794 ใช้เวลาบิน 14ชม. |
กระเป๋าเครื่องใช้ส่วนตัวที่แจกใน TG 794
กระเป๋าทีแจกในขากลับ TG 795 น่าใช้กว่าขามาอีกอะค่ะ
อาหารทั้งหมดนี้ก็คือขาไป นอนไม่ทันไรก็ต้องตื่นขึ้นมาทาน ขนมหวานชิ้นสุดท้ายที่ล้างคอแม้ไม่ค่อยอยากจะทานนัก แต่นางฟ้าไฟลท์นี้รักเราเท่าฟ้า คะยั้นคะยอให้เราชิมหน่อย เลยทานด้วยความเกรงใจ
ขอบอกว่า....อร่อยมากกกกกกกกกกก...ค่ะ
พูดได้ว่าอิ่มหมีพีมันกันตั้งแต่บนเครื่อง...และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ..ตลอด 12 วัน ที่ LA..ทานอะไรไม่ค่อยจะลง เล่นเอาผอมเพรียวกลับมาเลยแหละ.. กินบนเครื่องแค่วันเดียวอิ่มได้ 12วันเลยจริงๆ
เรามาดูบรรยาการกาศที่สนามบิน LAX กันบ้าง
เดี๋ยวเราจะไปที่เลาท์กันตามไปดูนะคะ
ก่อนเข้าขอเช็คเวลากลับที่แน่นอน ขากลับ TG 975 ใช้เวลา17 ชม.
เจ้าตัวเล็กยังอ่านหนังสือไม่ได้ แต่ก็สนใจอยากจะหยิบ
ผู้โดยสารเยอะอีกเช่นเคย นอกจากจะมองหาที่นั่ง ก็ยังต้องวิ่งไล่จับเจ้าตัวเล็กอีกตะหาก หุหุ
ตอนนี้ปล่อยให้ลูกวิ่งเล่นไปก่อนส่วนคุณแม่ก็ขอเก็บภาพในมุมต่างๆ
มีที่นั่งว่างแระ แต่ก็ไม่ได่นั่งเพราะเจ้าตัวเล็กวิ่งวุ่นไปทั่วเลาจ์เลย
วิ่งตามจับเจ้าตัวเล็กจนพลัดหลงเข้ามาในโซนนี้...ไม่มีผู้โดยสารซักกะคน
มีเพียงเรา 2คนแม่ลูก ดีจังเลย ^_^
อยากจะตีหลังกานอนซะจริงๆ แต่เจ้าเด็กลิงซิ... อยู่ไม่นิ่งเลย
เราจะมีอะไรทานบ้างเอ่ย...
ไม่รู้จะทานอะไรดี เลือกมา 2จานสำหรับเรา 2คนแม่และลูก
รองท้องเรียบร้อยเราไปสำรวจกันต่อดีกว่า
ภายในห้องน้ำก็จะมีห้องอาบน้ำไว้คอยบริการด้วย
หลังจากเก็บภาพในมุมต่างๆพร้อมกับชุลมุนกับเจ้าตัวเล็ก สักพักก็มีเจ้าหน้าที่มีถามเราว่าเดินทางโดยชั้นใหน เพราะโซนนี้มีไว้คอยให้บริการสำหรับ Frist Class เท่านั้น
แฮ่ ๆแล้วเราก็ได้ออกมาตามระเบียบ ยังดี..ที่คุณเจ๊เแกมาบอกตอนที่เราจะต้องขึ้นเครื่องพอดี
ซึ่งจริงๆแล้วเครื่องที่ดิฉันนั่งสูงสุดมีแค่ Rolyal silk class ไม่มี First class ตั๋วพิเศษนี้ก็สามารถอัพเกรดนั่งในชั้นFirst ได้ เช่นกัน
และก็อีกมุม
ขอจบรีวิว การเดินทางไว้เพียงเท่านี้ แต่อย่าเพิ่งไปใหนนะคะ เดี๋ยวจะพาเที่ยวที่อเมริกาต่อค่ะ