วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2555

สนุกสุดๆที่ Universal Studio LA.

ตลอดระยะเวลาที่ได้เที่ยวที่อเมริกา 1ความสนุกก็คือการได้ไปเที่ยวที่ Universal Studio เป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจ และประทับใจ สุดๆ มากกว่าดิสนีย์แลนด์เลยก็ว่าได้ จะสนุกยังไงเดี๋ยวเราไปดูกัน


วันที่เราไป..ถ้าจำไม่ผิดประมาณวันที่4 พย.อากาศกำลังดี แดดไม่ร้อน แถมยังเย็นสบายอีกต่างหาก
 ต้องได้แบบนี้ซิ..ถึงจะเหมาะกับการเที่ยว เพราะต้องกระเตงเจ้าตัวยุ่งไปด้วย





เรามาถึงค่อนข้างเร็ว เพื่อจะได้เที่ยวได้เยอะ ตอนเข้ามายังไม่ค่อยมีใครเลย เดี๋ยวเราไปถ่ายรูปกันดีกว่า









 1ไฮไลท์ของที่นี่ก็เจ้าตัวนี้นี่แหละค่ะ เจ้าคิงคอง เล่นเอาเจ้าตัวเล็กหายซนไปเลยทีเดียว


เข้ามาในนี้ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีอะไรทานนะคะ ร้านอาหารมีให้เลือกมากมาย รวมถึงร้านค้าน่าช๊อปต่างๆก็มีมากมายเช่นกัน แต่ราคาก็ค่อนข้างสูงนะคะเหมาะกับคนกระเป๋าหนัก





ผู้คนก็ยังบางตาเพราะเรายังไม่ได้ซื้อตั๋วผ่านเข้าไปด้านใน


1ภาพใหนโหมด เมืองจำลอง  ขอลองกล้องหน่อยเพราะเพิ่งซื้อมา อิอิ


สัญลักษณ์ของ Universal ที่ใครมาก็ห้ามพลาด แช๊ะ...


เดี๋ยวเราจะต้องซื้อบัตรผ้านประตู ราคาก็ 100 เหรียญ ตอนนั้นค่าเงินบาทอยู่ที่ประมาณ31.60 ก็ 3160 บ.ราคาสูงเหมือนกันแต่อายูตั่วใช้ได้ถึง 1ปีเลย นี่ก็กะว่า ปลายปีจะไปอเมริกาอีกรอบ เพราะตั๋ว Universal ยังไม่หมดอายุ สนุกจริง คอนเฟิร์ม ดิฉันเองถึงขั้นต้องกลับไปอีกรอบ




คนเริ่มเยอะแล้ว ต้องรีบแล้ว เพราะเราต้องต่อคิวเข้าชมการแสดงในสตูดิโอต่างๆ


รีบขนาดใหนก็อดไม่ได้ที่จะเก็บภาพในมุมต่างๆ เห่อกล้องคะ อีกโหมด




















วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555

ครั้งแรกของการบินไปอเมริกา

   

BKK - LAX


 หลังจากได้วีซ่ามา 10ปี ก็ถึงคราวที่เราต้องบินจริงๆกันเสียที การเดินทางในครั้งนี้เราใช้ตั๋วพิเศษของการบินไทย ชื่อเต็มของตั๋วเรียกว่ายังไงดิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกัน เด่วจะถามทางคุณแฟนให้อีกที แล้วจะมาตอบทีหลังนะคะ สิทธิพิเศษของตั่วก็คือ..ไม่ต้อง stand by จองที่นั่งได้เลย
                                         ที่สำคัญอัพเกรดที่นั่งในชั้นสูงสุดได้โดยอัติโนมัติ
                    ก็เลยได้นอนชิลๆ สบายอารมณ์ แต่ไม่ได้ชิลตลอดระยะทางเนื่องจากพาเจ้าตัวเล็กไปด้วย และมีกฎว่าตั๋วชนิดนี้ไม่สามารถ ใช้กับเด็กอายุต่ำกว่า 12ขวบ นั้นหมายความว่าลูกนั่งชั้น royal silk ไปด้วยไม่ได้  งานนี้เลยต้องมีการเสียสละ และแล้วคุณแฟนก็เสียสละให้ดิฉันได้นอนสบาย
ส่วนเค้าก็ยอมดูแลลูกใน economy  class แทน เศร้าเลย T T



                                                ผู้ร่วมเดินทางในทริปนี้ สุดที่Love กะเจ้าตัวยุ่ง
                                                          

     ตรวจเอกสาร ตรวจอาวุธ สแกนกระเป๋าแล้ว เข้ามาข้างในก็จะเจอพญานาคมาคอยส่งเรา           
ให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ



     แต่ละร้านก็น่าช๊อปทั้งน้าน..ได้แต่อดใจ เพราะกลัวว่าเดี๋ยวจะไปอดตายที่อเมริกาซะก่อน




  บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน ) ได้รับรางวัล สายการบินยอดเยี่ยมแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำปี 2011 จากนิตยสารโกลบอล แทรเวลเลอร์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา
  การได้ใช้บริการเลาท์ของการบินไทยจึงนำมาซึ่งควาภาคภูมิใจในสายการบินแห่งชาติ    จึงอยากเข้าไปเก็บรายละเอียดหลายๆมุมมาให้ได้ชมกัน  แต่วันนั้นคนเยอะมากกกกกกกกก..ถึงมากที่สุด หากดิฉันไปยืนเก้ๆ กังๆถ่ายรูปก็เกรงว่าจะเป็นการรบกวนผู้โดยสารท่านอื่น ๆกอรปกับกล้องที่ใช้คุณภาพไม่ค่อยดีนัก จึงมีรีวิวมาให้ดูไม่มากเลยขอรวบยอดเลาท์การบินไทยที่BKK กับที่ LAX .ให้ดูในกระทู้เดียวกันเลยนะคะ


ทางเดินสู่เลาจ์ก็ค่อนข้างไกลเหมือนกันนะ 


 อีกมุมที่ว่าง แต่ว่างตอนที่เราจะต้องขึ้นเครื่องซะแล้ว เลยอดนั่งเลย 

                                                
                            โต๊ะว่างก็ไม่มีจึงต้องขอนั่งร่วมโต๊ะกับสาวแสนสวย และใจดีคนนี้แหละ


จริงๆอาหารก็มีหลากหลายนะคะ พนักงานที่คอยบริการก็เป็นเลิศค่ะ อยากให้เราได้ชิมหลายๆอย่าง แต่ก็ไม่ได้ชิมคะ ทานแค่เค้กกับน้ำส้มเท่านั้นเอง เด่วไปแอบลุ้นกันต่อว่าบนเครื่องจะมีอะไรให้เราทานบ้าง
                                                      

                              
                     อีกมุมในห้องน้ำ แค่มุมนี้มุมเดียวก็พอ เดี๋ยวจะพาไปทานอาหารบนเครื่องกันต่อ



                                    ขณะที่รอขึ้นเครื่องลูกยังซนได้อีก จึงต้องล่อด้วย BEN 10





ขาไปเราบินไฟล์ TG 794 ใช้เวลาบิน 14ชม.

กระเป๋าเครื่องใช้ส่วนตัวที่แจกใน TG 794



กระเป๋าทีแจกในขากลับ TG 795 น่าใช้กว่าขามาอีกอะค่ะ







อาหารทั้งหมดนี้ก็คือขาไป นอนไม่ทันไรก็ต้องตื่นขึ้นมาทาน ขนมหวานชิ้นสุดท้ายที่ล้างคอแม้ไม่ค่อยอยากจะทานนัก แต่นางฟ้าไฟลท์นี้รักเราเท่าฟ้า คะยั้นคะยอให้เราชิมหน่อย เลยทานด้วยความเกรงใจ 
ขอบอกว่า....อร่อยมากกกกกกกกกกก...ค่ะ









พูดได้ว่าอิ่มหมีพีมันกันตั้งแต่บนเครื่อง...และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ..ตลอด 12 วัน ที่ LA..ทานอะไรไม่ค่อยจะลง เล่นเอาผอมเพรียวกลับมาเลยแหละ.. กินบนเครื่องแค่วันเดียวอิ่มได้ 12วันเลยจริงๆ




เรามาดูบรรยาการกาศที่สนามบิน LAX กันบ้าง



เดี๋ยวเราจะไปที่เลาท์กันตามไปดูนะคะ
ก่อนเข้าขอเช็คเวลากลับที่แน่นอน ขากลับ TG 975 ใช้เวลา17 ชม.




เจ้าตัวเล็กยังอ่านหนังสือไม่ได้ แต่ก็สนใจอยากจะหยิบ





ผู้โดยสารเยอะอีกเช่นเคย นอกจากจะมองหาที่นั่ง ก็ยังต้องวิ่งไล่จับเจ้าตัวเล็กอีกตะหาก หุหุ





ตอนนี้ปล่อยให้ลูกวิ่งเล่นไปก่อนส่วนคุณแม่ก็ขอเก็บภาพในมุมต่างๆ









มีที่นั่งว่างแระ แต่ก็ไม่ได่นั่งเพราะเจ้าตัวเล็กวิ่งวุ่นไปทั่วเลาจ์เลย


วิ่งตามจับเจ้าตัวเล็กจนพลัดหลงเข้ามาในโซนนี้...ไม่มีผู้โดยสารซักกะคน
มีเพียงเรา 2คนแม่ลูก  ดีจังเลย ^_^


อยากจะตีหลังกานอนซะจริงๆ แต่เจ้าเด็กลิงซิ... อยู่ไม่นิ่งเลย

เราจะมีอะไรทานบ้างเอ่ย...













  




ไม่รู้จะทานอะไรดี เลือกมา 2จานสำหรับเรา 2คนแม่และลูก

รองท้องเรียบร้อยเราไปสำรวจกันต่อดีกว่า


ภายในห้องน้ำก็จะมีห้องอาบน้ำไว้คอยบริการด้วย


หลังจากเก็บภาพในมุมต่างๆพร้อมกับชุลมุนกับเจ้าตัวเล็ก สักพักก็มีเจ้าหน้าที่มีถามเราว่าเดินทางโดยชั้นใหน เพราะโซนนี้มีไว้คอยให้บริการสำหรับ Frist Class เท่านั้น
แฮ่ ๆแล้วเราก็ได้ออกมาตามระเบียบ ยังดี..ที่คุณเจ๊เแกมาบอกตอนที่เราจะต้องขึ้นเครื่องพอดี
ซึ่งจริงๆแล้วเครื่องที่ดิฉันนั่งสูงสุดมีแค่ Rolyal silk class ไม่มี First class ตั๋วพิเศษนี้ก็สามารถอัพเกรดนั่งในชั้นFirst ได้ เช่นกัน


และก็อีกมุม

 ขอจบรีวิว การเดินทางไว้เพียงเท่านี้ แต่อย่าเพิ่งไปใหนนะคะ เดี๋ยวจะพาเที่ยวที่อเมริกาต่อค่ะ